วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

รูปแบบการเลี้ยงปลาบู่


รูปแบบการเลี้ยงปลาบู่ 


                  1. การเลี้ยงปลาในบ่อดินส่วนใหญ่จะเลี้ยงร่วม กับปลาชนิดอื่น เช่น เลี้ยงร่วมกับปลานิลเพื่อไว้คุมจำนวนประชากรของลูกปลานิลไม่ให้ แน่นบ่อเช่นเดียวกับปลาช่อน นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงร่วมกับปลาชนิดอื่นใต้เล้าไก่ หรือเล้าหมูโดยปล่อยอัตราส่วนปลาบู่ต่ำซึ่งขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงจะหาซื้อ พันธุ์ได้ จำนวนมากน้อยเท่าใดเมื่อเลี้ยงปลามีน้ำหนัก 400 - 500 กรัมขึ้นไปจึงจับจำหน่ายแล้วหาพันธุ์ปลามาปล่อยชดเชย อาหารที่ให้เป็นพวกปลาเป็ดบดปั้นเป็น ก้อนๆ ใส่ลงในเรือแจวให้อาหารเป็นจุดๆ รอบบ่อจุดที่ให้อาหารมีกระบะไม้ปักอยู่เหนือก้นบ่อเล็กน้อย ในช่วงตอนเย็นปริมาณอาหารที่ให้ประมาณ 5 เปอร์ เซ็นต์ ของน้ำหนักปลาใช้เวลาเลี้ยง 8 - 12 เดือนจับจำหน่ายน้ำหนักปลาที่นิยมรับซื้อตั้งแต่ 400 - 800 กรัมไม่เกิน 1 กิโลกรัม
                  2. การเลี้ยงปลาบู่ในกระชัง ปลาบู่เป็นปลาอีก ชนิดหนึ่งที่นิยมเลี้ยงในกระชังเนื่องจากสามารถเลี้ยงได้หนาแน่นในที่แคบได้ และเป็นปลากิน เนื้อ จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งอาหารธรรมชาติมาก นักถึงแม้ว่าปลาบู่มีนิสัยชอบอยู่นิ่งเป็นส่วนใหญ่ แต่ชอบที่ที่มีน้ำไหลผ่านโดยเฉพาะน้ำที่มี่ความขุ่นยิ่งดีเพราะ ปลาบู่ตก ใจง่ายเมื่อเลี้ยงในน้ำใสปลาบู่เป็นปลา ที่มีราคาแพง ที่ปากกระชังราคากิโลกรัมละ 320 บาท (ราคาปี 2541)
                   การเลี้ยงปลาบู่ในกระชังมีวิธีการดังนี้
                  การเลือกสถานที่ การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมในการวางกระชังปลาบู่นับเป็นจุดเริ่มต้นการเลี้ยง ที่สำคัญที่สุด ถ้าเลือกสถานที่เลี้ยงได้ดี ทำให้ ปลาบู่เจริญเติบโตเร็ว อัตรารอดสูง ทุ่นค่าใช้จ่ายในการจัดการ สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงปลาบู่ในกระชัง คือ
                   1. คุณสมบัติของน้ำดีและมีปริมาณเพียงพอตลอดปี
                   2. ใกล้แหล่งหาพันธุ์ปลาและอาหารปลาได้ง่าย ราคาถูก
                   3. การคมนาคมสะดวกต่อการลำเลียงพันธุ์ปลาและอาหารปลา
                   4. ไม่อยู่ใกล้แหล่งโรงงานอุตสาหกรรมและพื้นที่ที่มีการใช้สารเคมีสำหรับการ เกษตรมากเพื่อหลีกเลี่ยงสารพิษที่ปนเปื้อนมากับน้ำ
                   5. น้ำมีความขุ่นพอสมควรเพราะปลาบู่ชอบที่มืด ช่วยให้ปลากินอาหารได้ดีและไม่ตกใจง่าย
                   6. ความลึกของน้ำไม่ควรต่ำกว่า 2 เมตร
                   7. มีกระแสน้ำที่ไหลแรงพอสมควร
                   8. ปลอดภัยจากการถูกลักขโมย
                   9. ปราศจากศัตรูและภัยธรรมชาติ
                  10. ไม่กีดขวางการสัญจรทางน้ำและไม่ผิดกฎหมายบ้านเมือง
              
   ประเภทของกระชัง กระชังส่วนใหญ่เป็นกระชังไม้ไผ่หรือไม้จริง ส่วนกระชังตาข่ายไนลอนหรือใยสังเคราะห์หรือตาข่ายเหล็กที่ใช้ เลี้ยงปลาน้ำกร่อยยังไม่เป็นที่นิยมของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาน้ำจืด กระชังแบ่งเป็นประเภท ๆ ดังนี้
                   2.1 กระชังไม้ไผ่ล้วน ๆ เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงปลาที่มีทุนน้อย อายุการใช้งานประมาณ 1 - 1.5 ปี กระชังที่ใช้กันทั่วไปมีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 5เมตร ลึก 1.5 เมตร ราคากระชังละประมาณ 1,600 - 2,000 บาท ไม้ไผ่ที่ใช้จะเหลาให้เรียบขนาดกว้าง 2.5 เซนติเมตร หนา 0.5 เซนติเมตร สาน เป็นรูปสี่ เหลี่ยมผืนผ้ามีเฝือกไม้ไผ่ปิดด้านบน ใช้ลูกบวบไม้ไผ่ประมาณ 50 ลำ ข้อเสียของกระชังแบบนี้ คือ กระแสน้ำไหลถ่ายเทไม่สะดวกมีเศษอาหารเหลือ ตกค้างในกระชังและทำความสะอาดกระชังยาก
                   2.2 กระชังทำด้วยไม้ไผ่แต่โครงกระชังเป็นไม้จริง นำไม้ไผ่มาผ่าเป็นซีกๆละประมาณ 3 นิ้ว ตัดเป็นท่อนตามความกว้างและความยาวของ ขนาดกระชังที่จะสร้างและตีไม้ไผ่รอบทุกด้านของโครงกระชังไม้จริงให้มีช่วง ห่างประมาณ 1/2เซนติเมตร เพื่อให้น้ำไหลผ่านและใช้ไม้ไผ่ขนาดเดียวกัน ทำฝาปิด กระชังใช้ลูกบวบประมาณ 25 ลำ อายุการใช้งานประมาณ 2 ปี ค่าสร้างกระชังประมาณ 2,800 - 3,200 บาท
                   2.3 กระชังไม้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่มีทุนมาก กระชังชนิดนี้มีความทนทานอายุการใช้งาน 5 - 7 ปี กระชังสร้างด้วยไม้ขนาดหน้า 4 นิ้ว ใช้ไม้ ขนาดหน้า4 นิ้ว หนา 1 หน้า ไสกบให้เรียบปิดพื้นและด้านข้าง 4 ด้าน โดยให้มีระยะห่าง 1.5 - 2 เซนติเมตร ด้านบนตีไม้ปิดเช่นเดียวกับด้านข้างและ มีช่องปิด- เปิดสำหรับให้อาหารขนาดกว้าง 40 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร ทุ่นลอยใช้ลูกบวบประมาณ 100 ลำ กระชังไม้จริงขนาด 13 ตารางเมตร ลึก 1.5 เซนติเมตร ราคา 25,000 บาท เมื่อย่างเข้าปีที่ 3 ต้องทำการซ่อมแซมและซ่อมแซมใหม่ทุก ๆ2 ปี
                           กระชังไม้จริงที่นิยมใช้มี 3 ขนาด คือ
                        ขนาดที่ 1 กว้าง 2.5 เมตร ยาว 8 เมตร ลึก 1.5 เมตร
                        ขนาดที่ 2 กว้าง 2.5 เมตร ยาว 5 เมตร ลึก 1.5 เมตร
                        ขนาดที่ 3 กว้าง 2.5 เมตร ยาว 3 เมตร ลึก 1.5 เมตร
                 ขนาดกระชัง ขนาดกระชังที่ใช้เลี้ยงปลาบู่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เลี้ยงซึ่งต้อง พิจารณา ร่วมกับขนาดของแหล่งน้ำและเงินทุนโดย ทั่วไปกระชังมีขนาดตั้งแต่ 2 x 3 เมตร 2 x 5 เมตร 2.5 x 3 เมตร 2.5 x 8 เมตร กระชังด้านบนมีฝาปิดเปิดและติดกุญแจป้องกันการลักขโมย
                   อัตราการปล่อย พันธุ์ปลาบู่ที่นิยมนำมาเลี้ยงส่วนใหญ่มีขนาด 100 - 300 กรัม ซึ่งได้จากการรวบรวมจากธรรมชาติหรือซื้อจากพ่อค้า คนกลางที่ดำเนินการทั้ง ขายพันธุ์และรับซื้อปลาบู่ขนาดตลาดส่งเข้ากรุงเทพฯ ปลาบู่มีนิสัยชอบนอนนิ่งอยู่บริเวณก้นกระชังทำให้สามารถปล่อยปลาบู่ได้หนา แน่น ประมาณ 70 - 100 ตัวต่อตารางเมตร หรือ 10 - 30 กิโลกรัมต่อลูกกาศก์เมตร ในแหล่งน้ำที่มีการไหลถ่ายเทของน้ำดีมากผ่านในกระชังถ้าแหล่งน้ำใด มีคุณสมบัติน้ำไม่ดีและไหลถ่ายเทช้า ควรปล่อยตารางเมตรละ 40 - 50 ตัว ก่อนปล่อยพันธุ์ปลาลงในกระชังควรทำให้ปลามีความคุ้นเคยกับน้ำที่จะเลี้ยงโดย เอาน้ำใน กระชังปนลงไปในภาชนะด้วยและควรฆ่าเชื้อป้องกันโรคเสียก่อน
                     สำหรับการป้องกันโรคก่อนปล่อยพันธุ์ปลาบู่ลงเลี้ยง ควรแช่ปลาในน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์แล้วนำมาแช่ในด่างทับทิมซึ่งมี ความ เข้มข้น 5 - 10 พีพีเอ็ม นาน 20 นาที อีกครั้งหนึ่งเพื่อกำจัดหนอนสมอ แล้วนำไปแช่ในน้ำยาเมทธิลีนบลูเข้มข้น 2 - 3 พีพีเอ็ม หลังจากนั้นนำไปปล่อย ลงเลี้ยงในกระชัง เครื่องมือที่ใช้รวบรวมพันธุ์ปลาจากแหล่งน้ำธรรมชาตินิยมใช้ลอบ ข่าย สวิง ยกยอ ฯลฯ แล้วนำปลาไปพักรวมกันในกระชังจนได้ปริมาณ มากพอจึงค่อยลำเลียงพันธุ์ปลาไปยังผู้เลี้ยง ทั้งนี้ควรป้องกันพันธุ์ปลาไม่ให้เกิดความบอบช้ำหรือมีบาดแผลและเกิดความ เครียด โดยก่อนพักปลาลงในกระชัง ควรทำการ ฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับตัวปลาโดยแช่ปลาในน้ำที่ผสมเฟอราเนซความเข้มข้น 1 - 2 กรัมต่อน้ำ 100 ลิตรแช่ไว้ 5 - 15 นาที หรือแช่ในสารละลาย ด่างทับทิมที่มี ความเข้มข้น 10 พีพีเอ็ม นาน 10 นาที ในระหว่างพักปลาควรดูแลเอาใจใส่ และให้อาหารเพียงพอเพื่อให้ปลาแข็งแรงขึ้นก่อนลำเลียงไปเลี้ยง ในกระชังต่อไป
                  อาหารและการให้อาหาร ปลาบู่จัดเป็นปลากินเนื้ออาหารที่ดีควรมีโปรตีน 38 - 40 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 5 - 8 เปอร์เซ็นต์ คาร์โบไฮเดรต 9 - 12 เปอร์เซ็นต์ วิตามินและแร่ธาตุ 0.5 - 1 เปอร์เซ็นต์ อาหารใช้เลี้ยงปลาบู่แบ่งเป็น 2 ชนิด
                     5.1 อาหารแบบพื้นบ้าน เป็นอาหารสดได้จากการนำปลาเป็ดจากทะเลหรือปลาน้ำจืดมาสับให้ปลากิน หรือใช้เครื่องบดอาหารซี่งมีผลดีทำ ให้กระดูกปลาเป็ดป่นย่อยละเอียดไม่เป็นอันตรายต่อสำไส้ปลาบู่ ประหยัดเวลาและแรงงาน
                          สูตรอาหารปลา คือ ปลาเป็ดสดบดละเอียด 94 เปอร์เซ็นต์
                                                  รำละเอียด 5 เปอร์เซ็นต์
                                                  วิตามินและเกลือแร่ 1 เปอร์เซ็นต์
(เกษตรกรบางรายผสมหัวอาหารหมูหรือไก่ลงไปด้วย) และควรใส่เกลือป่นในอัตรา100 กรัม ต่ออาหาร 3 กิโลกรัม เพื่อทำให้อาหารจับตัวเหนียวขึ้นป้องกัน การละลายหรือลอยตัวของอาหาร
                    5.2 อาหารผสมสูตรสำเร็จแบบเปียก อาหารชนิดนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายเตรียมจากวัสดุอาหารแห้งและเปียก สะดวกในการจัดเก็บได้นาน ในตู้เย็นเตรียมง่าย และถูกสุขลักษณะทั้งยังสามารถเติมยาปฏิชีวนะและฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ปลาบู่กินอาหารเชื่องช้ากว่าปลาชนิดอื่น จึงควรปั้นเป็น ก้อนใส่ถาดแขวนไว้ในกระชังให้ต่ำกว่าระดับผิวน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร การให้อาหารจะให้อาหารทุก ๆ วัน ละ 3 - 5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักปลาในกระ ชัง ให้ 2 วันครั้ง ๆ ละ 8 - 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักปลา การให้อาหารควรสังเกตว่าปลากินอาหารหมดหรือไม่และค่อยปรับเพิ่มหรือลดอาหาร
                  อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ อัตราการแลกอาหารเป็นเนื้อปลาบู่ที่เลี้ยงด้วยปลาเป็ดอยู่ระหว่าง 7.3 - 12.2 : 1
                   การจัดการ การเลี้ยงปลาบู่ในกระชังควรมีการจัดการด้านการทำความสะอาด การดูแลรักษาและการ คัดขนาด
                    7.1 การทำความสะอาด ควรใช้แปรงขัดภายในกระชังให้ตะไคร่น้ำตะกอนที่ติดตามตะไคร่น้ำและตัวกระชัง ออกรวมทั้งเศษอาหารเพราะ เป็นแหล่งหมักหมมและก่อให้เกิดเชื้อโรค หลังจากปลาบู่เอาด้านข้างตัวไปถูกับด้านข้างกระชังหรือพื้นกระชังอาจทำให้ ตัวเป็นแผลและเชื้อโรคตามตะกอน หรือตะไคร่น้ำเข้าตัวปลาทางแผลได้ กรณีที่มีตะกอนดินทับถมในกระชังมาก ควรใช้พลั่วแซะตะกอนออกหรือใช้เครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าแบบจุ่มฉีดไล่ตะกอน เกษตรกรบางรายนิยมใช้ด่างทับทิมห่อด้วยผ้าถูตามภายในกระชังเพื่อฆ่าเชื้อ
                    7.2 การคัดขนาด การเลี้ยงปลาบู่ต้องทำการคัดขนาดปลาบ่อยๆ ครั้งปกติเดือนละครั้งหรืออย่างน้อย 2 เดือนครั้ง เนื่องจากปลาบู่เป็นปลา กินเนื้อและมีนิสัยก้าวร้าว ปลาตัวใหญ่จะคอยไล่ไม่ให้ปลาตัวเล็กได้มีโอกาสเข้ามากินอาหาร ทำให้ปลาตัวเล็กผอมลงพฤติกรรมก้าวร้าวนี้เกิดขึ้นในลูกปลาบู่ ตัวเล็กเหมือนกัน คือถ้ามีลูกปลามีขนาดต่างกันมากก็จะกินกันเองแต่ในปลาบู่ขนาดใหญ่จะมี พฤติกรรมกัดกันเองและไล่กันไปมา การคัดขนาดปลาบู่ทำให้ปลา มีขนาดโตเท่ากันสม่ำเสมอ เติบโตเร็วและเพิ่มผลผลิตอีกด้วย
                          
7.3 การป้องกันโรค ผู้เลี้ยงควรหมั่นดูแลสุขภาพของปลาบู่อยู่เสมอ ตรวจดูกระชังภายในให้อยู่ในสภาพดีและควรถือหลักป้องป้องกันไม่ ให้เกิดโรคมากกว่าที่ปล่อยให้ปลาเป็นแล้วทำการรักษาทีหลัง
                   อัตรารอด  อัตรารอดตายในการเลี้ยงปลาบู่ขึ้นอยู่กับปัจจัยความแข็งแรงของพันธุ์ปลา คุณภาพน้ำในแหล่งน้ำ ความสามารถ ความ ชำนาญ ในการเลี้ยงและสภาพสิ่งแวดล้อม
                   อัตราการเจริญเติบโต ของปลาบู่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ อาทิ อัตราปล่อยคุณภาพและปริมาณอาหาร คุณสมบัติน้ำฯลฯ จากการ เลี้ยงปลาบู่ที่แม่น้ำน่าน จ.นครสวรรค์ พบว่าอัตราปล่อยตารางเมตรละ 32 ตัว ใช้เวลาเลี้ยง 7 เดือน จะให้ผลผลิตสูง
                   ผลผลิต ผลผลิตการเลี้ยงปลาบู่ในกระชังไม้ไผ่ขนาด 10 ลูกบาศก์เมตร อัตราการปล่อยปลา 915 ตัว น้ำหนักเฉลี่ย 224 กรัม ใช้เวลา เลี้ยง 5.3 เดือนได้น้ำหนักเฉลี่ย 435 กรัม ส่วนกระชังไม้จริงขนาด 15 ลูกบาศก์เมตร อัตราการปล่อยอาหาร 1,500 ตัว น้ำหนักเฉลี่ย 184 กรัม ใช้เวลาเลี้ยง 8.5 เดือน ได้น้ำหนักเฉลี่ย 422 กรัม การเลี้ยงปลาบู่ถ้ามีการเอาใจใส่การเลี้ยงปลา มีประสบการณ์ความชำนาญและสภาพแวดล้อมดีปลาไม่เป็นโรคก็จะ ให้ผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่สูง ขายได้ราคาแพง และมีกำไรสูง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น